(make up items only!) |
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=196146
แต่ไม่ได้มีโอกาสทำบล็อกเก็บไว้กับเค้าซักที ไหนๆก็เปิดบล็อกมาไว้เขียนเล่านู่นเล่านี้แล้ว ถือโอกาสรวมข้อมูลทั้งหมดมาเก็บไว้ในนี้เลยแล้วกันเนอะ จะได้เก็บไว้ดูเป็นข้อมูลได้สะดวกหน่อย
ในนี้จะมีการแก้ไขข้อความเล็กน้อย คือมีพิมผิดนิดๆหน่อยๆ แล้วก็ยังไม่ได้แก้ ก็มาแก้ในนี้ทีเดียวเลย รวมทั้งเดี๋ยวจะมาเพิ่มเติมในส่วนของราคาให้ แต่ยังไม่ครบทุกตัวนะ ^^'
Nars pro-prime smudge proof eye shadow base |
มาพูดถึงตัวที่เข้าวินดีกว่
ถามว่าจำเป็นมั้ยสำหรับทุกค
Corrector & Concealer |
Giorgio Armani Corrector :
อันที่จริงไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ของอันนี้ทำมาเพื่อใช้ยังไงนะ แต่ส่วนตัวใช้เป็น corrector ก่อนที่จะลง concealer เพราะว่าสีค่อนข้างชมพูชัดเจน pigmented ประมาณนึง ทำให้มันทำหน้าที่ corrector ได้ดีมาก
เคยอ่านเรื่องทฤษฎีสีกันมั้ ย เรื่องนี้เอามาใช้กับเมคอัพ ได้ด้วยนะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น ใครที่มีรอยสิวสีแดง ให้ลองใช้ corrrector ที่มีเขียวลงก่อนบางๆหนึ่งร อบเพื่อปรับสีก่อน แล้วให้ลงคอนซีลเลอร์ที่มีเ ฉดใกล้เคียงกับผิวที่สุดลงต ามไปอีกที คราวนี้เนียนกริ๊บเลย ไม่มีใครรู้ว่าเป็นสิว ให้ใช้ในกรณีที่คอนซีลเลอร์ เดี่ยวๆปิดไม่มิดนะ ถ้าคอนซีลเลอร์เดี่ยวๆปิดมิ ดแล้ว ตัวคอเรคเตอร์ก็ไม่จำเป็น แต่ขอให้จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว ่ารอยแดงรอยดำปิดได้ แต่ความนูนของสิวเนี่ย ปิดไม่ได้นะ
ในไทยซื้อได้ที่ king power รางน้ำ ไม่แน่ใจว่าจริงๆมีกี่เฉด น่าจะ 4 นะ แต่ที่รางน้ำมีสองเฉดคือสีอ อกชมพูกับสีเนื้อ วิธีเลือกว่าเราควรใช้สีไหน ให้ดูว่าใต้ตาเราคล้ำเขียวห รือคล้ำม่วงจากเส้นเลือด เอาจริงๆก็ดูไม่ค่อยออกกันห รอก ดูออกแต่ว่าใต้ตามันคล้ำ 5555555 คำแนะนำที่ง่ายที่สุดว่าเรา เหมาะกับสีอะไรคือ ลองข้างละสีค่ะ แล้วดูว่าข้างไหนดีกว่ากัน ให้คนที่ไปด้วยช่วยดูให้ก็ไ ด้ ถ้าไปคนเดียวก็ส่องกระจกเอา ละกันโน๊ะ -3-
ถามว่าจำเป็นมั้ย : ถ้าไม่ได้มีรอบคล้ำใต้ตาที่ คอนซีลเลอร์ตัวเดียวปิดไม่อ ยู่ ตัวนี้ก็ไม่จำเป็นนะ ข้ามๆมันไปบ้างก็ได้ heart emotiNars creamy concealer สี custard, ginger :
ถามว่าจำเป็นมั้ย : ถ้าไม่ได้มีรอบคล้ำใต้ตาที่
Nars Radiant Creamy Concealer :
หลอดที่สองแล้ว จริงๆมีตัวอื่นที่ชอบมากเหม
ยกตัวอย่างมาพอเข้าใจแล้ว จะรีวิวตัวนี้ให้ฟัง คือที่ชอบเพราะว่าเราเป็นมน
วิธีใช้ส่วนตัว : ไม่ชอบใช้นิ้วเกลี่ยคอนซีลเ
Eye Brow |
Cosluxe pencil eye brow #caramel :
ตัวแรกปีนี้ที่ยกให้เป็นไอเท็มถ ูกและดี มาในราคา 200บาทบวกลบเล็กน้อย มีสามสีให้เลือก แต่เราเลือกสีอ่อนสุดมา ส่วนตัวคิดว่าถ้าย้อมผมสีอ่ อนกว่านี้ สีนี้ก็ยังเข้มไปนิด ถ้ามีเฉดเยอะกว่านี้จะเลิฟม ั่กๆ ด้านนึงเป็นที่ปัดคิ้ว ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้หรอก แข็งไปหน่อย แต่ทีเด็ดมันอยู่ตรงที่ด้าน ดินสอเขียนคิ้วที่เป็นหมุนๆ นั่นแหล่ะ มันดีงามมากๆ เพราะหัวเล็ก จิกเส้นได้เป๊ะสุดๆ สามารถใช้เติมดีเทลเล็กๆน้อ ยๆได้เนี๊ยบเป๊ะ ไม่เลอะเทอะเพราะหัวมันเล็ก ไง ชอบเอาไว้เติมใต้ท้องคิ้วให ้คิ้วดูหนาขึ้นอีกหน่อย มันเติมได้พอดีเลยโดยไม่หนา เกิน ไม่พลาดด้วย สีติดง่าย ติดทน แต่ถ้าจะเอามาระบายทั้งคิ้ว คงใช้เวลามากกว่าพวกหัวใหญ่ ๆ แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เราเอาไว้เก็บรายละเอียดเฉย ๆ ชอบแค่ไหนไม่ต้องบอก รู้แต่ขาดตลาดไปพักนึง พี่นี่รีบตุนเลยค่ะ คราวนี้ขาดตลาดก็ไม่กลัว ตุนไว้แล้วห้าแท่ง บร๊ายยยส์~
Illamasqua eye brow cake #peek :
ที่เขียนคิ้วเนื้อเค้ก อย่าเพิ่งงงว่าเนื้อเค้กคือ อะไร เพราะตอนแรกเราก็งง ที่จริงมันก็คือเนื้อฝุ่นอัดแข็งแต่ pigment แน่นกว่า ออกสีชัดเจน(ผู้รู้โปรดแจ้ง อันนี้มั่วเอาเองจากการใช้ ^^') ที่ซื้อมาเพราะสีมันเข้ากับ สีผมเราสุดๆ เพราะชอบทำผมสีน้ำตาลอมเขีย ว สีผมเฟดก็ยังเข้ากับที่เขียนคิ้วอันนี้ ไปทำสีอื่นทีไร สุดท้ายก็มาตายรังที่สีนี้ทู๊กที พอได้ทดลองใช้ดูแล้วต้องบอก เลยว่ามันดีมาก เม็ดสีชัดแน่นกว่าแบบฝุ่นทั่วๆไป เอาแปรงจิ้มนิดเดียวสีก็ติด ชัดแล้ว ติดทน ติดแน่นเช่นกัน อันนี้เราเอาไว้ระบายทั่วคิ้วแหล่ะ สะดวกดี บางยี่ห้อที่เป็นเนื้อฝุ่นน ะฝนแปรงไปเหอะ กว่าสีจะติด เล่นเอาเหนื่อยทีเดียว ชอบแค่้ไหนให้ดูจากภาพ hit pan อ่ะค่าา :D
Maybelline brow mascara สี dark brow :
มาสคาร่าปัดคิ้ว ย้อมคิ้วให้เป็นสีเดียวกับค ิ้ว ไม่มีก็ได้ ไม่เป็นไร ถ้าจะใช้ก็เพิ่มความเป๊ะดี คนที่มีเส้นคิ้วหนาๆคิ้วเย อะๆควรมีนะ ไม่งั้นเขียนคิ้วสีน้ำตาล แต่เห็นเส้นขนเป็นสีดำ มันจะดูไม่เนียน ชอบที่มันเป็นหัวกลมๆตุ้มๆแ บบนี้ มันทำให้ปัดง่ายขึ้นไม่เลอะ เทอะ สะดวกมากๆ ที่สำคัญคือไม่แพง หาซื้อง่ายมาก ราคาน่าจะสามร้อยกว่าบาท (ถูกและดี no.2)
Cosluxe liquid eyeliner :
ปีที่ผ่านมาสำหรับเรา แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทำเค รื่องสำอางออกมาได้ถูกใจหลา ยตัวนะ ทำคะแนนได้ดีเลยทีเดียวอายไ ลเนอร์ก็เหมือนกัน ให้เป็นถูกและดีตัวที่สามใน ลิสต์ละ จับง่าย ถนัดมือ กันน้ำ คือมันมาในลักษณะของปากกาที ่มีปลายเรียวแหลมเหมือนพู่ก ัน คิดว่าสำหรับมือใหม่ตัวนี้เ ป็นตัวนี้น่าจะเป็นตัวเริ่ม ต้นที่ดี มันบังคับเส้นได้ง่ายมากๆเล ย เส้นออกมาก็เงาๆตามสไตล์ของ ลิควิดไลเนอร์ จริงๆมีดีหลายตัวเลย แต่ที่ยกให้ตัวนี้เพราะว่าม ันราคาไม่แพง น่าจะสองร้อยกว่าบาท อายไลเนอร์เราเปลี่ยนบ่อยๆอ ยู่แล้วเพราะมันหมดเร็ว ถ้าเขียนทุกวันใช้แป้ปๆก็หม ด ไม่ต้องแพงมากหรอก เชื่อน้องเถอะ! คือไม่ใช่ว่าเราจะใช้ของแพง ทุกตัวนะ คือบางตัวอย่างเช่นอายไลเนอ ร์ มาสคาร่าใช้ทุกวันแปปเดียวก ็หมดแล้ว ดังนั้นไม่ต้องแพงมากก็ได้ ขอแค่ไม่เลอะให้น่าเกลียด แค่นี้เราก็โอเคแล้วอ่ะ อีกอย่างอายุของอายไลเนอร์แ ละมาสคาร่าค่อนข้างสั้นกว่า เครื่องสำอางชนิดอื่น เลยคิดว่าประหยัดในส่วนนี้ดีกว่า
Shu uemura pencil eyeliner :
ตัดสินใจยากมาก ลังเลอยู่นานว่าจะให้อายไลน ์เนอร์ดินสอตัวไหนเข้าวิน ระหว่าง cosluxe กับ shu สุดท้ายขอให้ shu ละกันเนอะ ด้วยเหตุผลที่ว่าสีที่มีหลา กหลายมากกว่า คือราคาต่างกันพอสมควร ไม่แน่ใจว่า shu จะราคาเกือบพันหรือเปล่า cosluxe นี่อยู่ที่สองร้อยบวกลบ เนื้อนิ่ม เขียนง่าย ติดทนนานทั้งคู่ แต่ของ shu นิ่มกว่า และเท่าที่ลองดินสอมาหลายๆย ี่ห้อของ shu ตอนนี้มาวินเรื่องความนิ่มข องเนื้อดินสอเลย และถ้าพูดถึงความหลากหลายของสี ขอยกให้ shu เลย ไม่ใช่ว่าเราจะใช้พวกสีน้ำเ งิน สีฟ้าอะไรแบบนี้นะ ในที่นี้ขอพูดถึงสีน้ำตาลละ กัน shu เนี่ยมีสีน้ำตาลอ่อนในเฉดที ่เราอยากได้พอดี คือไม่อ่อนไม่เข้มจนเกินไป เอามาเขียนตรงหางตาล่างหรือ วันไหนอยากใสๆก็เอาตัวนี้มา เขียนขอบตาบนแทนอายไลเนอร์ส ีดำแล้วเกลี่ยให้ฟุ้งๆ ก็จะได้ลุคที่ดูไม่ดุจนเกิน ไป เพราะสีน้ำตาลไม่เข้มไปนั่น เอง มันเป็นสีที่พอดีสำหรับเราม ากๆๆๆ เวลาจะแต่งหน้าลุคหวานๆ จะใช้ตัวนี้แทนลิควิดอายไลเ นอร์ทุกครั้ง เนื้อนิ่มสุดๆ นิ่มกว่า cosluxe ฉะนั้น shu ชนะค่ะ! ให้คะแนน 10/10/10 ไปเล้ย
ปล. สำหรับเราไม่แพนด้า ไม่เยิ้มนะ แต่ก็ยังไม่เคยแอดเวนเจอร์ถ ึงขั้นแบบไปออกกำลังกายเหงื่อท่วมๆแล้วเอาไปทดลอง -_- ถ้าคนที่เปลือกตามันมากๆๆ หรือมีร่องน้ำตา ก็ไม่แน่ใจว่าจะแอบเลอะนิดๆ มั้ย เพราะขอยืนยันว่าไม่มีดินสอ ตัวไหนในโลกที่ไม่แพนด้า มีแต่แพนด้าน้อยมากที่สุด กับโคตรแพนด้า 55555 สำหรับเรามันผ่านอ่ะ ซื้อต่อแน่นอน จะไปถอยสีน้ำตาลอีกเฉด กับสีมุกๆ
สรุป : มองหาสีที่หลากหลายมากๆและเ รื่องราคาไม่ใช่ปัญหา go to เคาน์เตอร์ลุงชูเลยจ้า แต่ถ้าเอาแค่สีเบสิคๆดำ น้ำตาลเข้ม และอยากเซฟไรงี้ cosluxe พอ ตอบโจทย์ เออ cosluxe มีสีออกชมพูตุ่นๆอ่อนๆด้วยน ะ เอามาเขียนหัวตาก็ทำให้ตาดู สดใสดี
พูดถึงแบรนด์นี้เยอะจริงๆ เงินก็ไม่ได้ เสียเงินเองล้วนๆ นี่ชอบจริงนะ ชื่มชมเจ้าของแบรนด์จริงๆที ่ทำของดีมีคุณภาพในราคาไม่แ พงมาให้ใช้กัน (นี่เป็นถูกและดีตัวที่เท่าไ หร่แล้วนะ สี่ป่ะ? เออสี่แหล่ะ 55555)
ชอบกาวลักษณะหัวจิ้มจุ่มแบบ นี้เพราะมันพอดี๊พอดีกับการ เอามาทาที่แกนขนตา เจอกาวหลอดๆทีไรบีบออกมาเกิ นทุกที เค้าเสียดาย T____T ที่ปีนี้ยกให้ตัวนี้เพราะว่ ามันดีจริง แถมไม่แพง ตอนแรกไปปลาบปลื้ม DUP แบรนด์ของญี่ปุ่นที่เค้าว่า ชมพู่อารยาก็ปลาบปลื้มอยู่พ ักนึง เออจะบอกว่ามันดีจริงๆนะ มันเป็นกาวลักษณะน้ำๆ ไม่ใช้แห้งแล้วเป็นยางๆยืดๆ ที่ติดทนมาก ไม่ระคายเคืองตาเลย ทีนี้มีวันนึงเกิดอยากลองซื้อ Cosluxe มาลองเล่นดู เพราะว่าแบรนด์นี้เค้าเริ่ม จากการผลิตขนตาใช่มะ ละค่อยๆแตกไลน์มาเป็นพวกที่ เขียนคิ้ว กาว อายไลเนอร์ไรงี้ เราก็นะว่าเออมันน่าจะดี ราคาก็ไม่แพง ไม่ดีก็ไม่เป็นไร คืออย่างน้อยถ้าดีเนี่ย มันก็หาซื้อได้ง่ายๆในไทย DUP มันต้องไปซื้อที่ญี่ปุ่นแหน ่ะ ไม่ก็ร้านพรีออเดอร์ไรงี้ จริงๆนิสัยเราอ่ะ เราชอบซื้อแบบเดินไปซื้อเลย นะ เจอของจริงซื้อเลย ขี้เกียจรอไปรษณีย์อ่ะ อยากได้ปุ๊ปต้องได้เลย พอได้ลองวันแรกปุ๊ปก็แบบ เฮ้ยยยมันดีอ่ะ นี่มันเป็นตัวตายตัวแทน DUP ได้เลยนะ เนื้อสีขาว ที่พอกาวแห้งแล้วจะเปลี่ยนเ ป็นสีใสๆไม่เป็นคราบ แห้งเร็ว ติดทนนาน เป็นเนื้อน้ำเหมือน DUP เลย แต่ติดทนน้อยกว่าหน่อย ที่สำคัญเป็นของคนไทยที่หาซ ื้อง่ายและไม่แพงเลย นี่ก็หลอดที่สองละ ถ้าไม่เจออะไรที่ดีกว่านี้ ก็จะซื้อใช้ต่อไปเรื่อยๆ
มีอีกตัวที่อยากแนะนำสำหรับ คนที่ชอบกาวลักษณะที่พอตอนแ กะกาวออกจากขนตามันจะเป็นลั กษณะยางๆ ยืดๆ แกะง่าย ที่แนะนำคือ Koji นะ(เดี๋ยวมาเพิ่มรูปให้ทีหลัง ชอบมากกก) สีดำ สีขาวก็มีแหล่ะ แต่ชอบสีดำ ตัวนี้ก็แห้งเร็วเหมือนกัน ส่วนเรื่องความติดทนกาวแบบน ้ำๆจะติดทนกว่า แต่ก็แกะกาวออกจากแกนขนตาได ้ยากกว่าเหมือนกัน ลองเลือกดูตามความเหมาะสมเน อะ
Lunasol eye shadow ตลับเดี่ยว #Sheer light beige
เหมือนมันจะไม่มีใครพูดถึงเ ท่าไหร่ แต่เอาจริงๆมันเป็นเรื่องยา กมากนะ ที่เราจะใช้พวกอายแชว์โดว์ หรือบลัชออนแล้วมัน hit the pan อ่ะ คืออันนี้มันยิ่งกว่านั้น คือตลับแรกหมดแล้วจ้าาาา และขึ้นตลับสองไปแล้ว (อัพเดท ณ ตอนนี้ ตลับที่สองก็ใช้ไปครึ่งนึงแล้ว) ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบอะไรมากนะ (อ้าวแล้วซื้อมาทำไมวะ 5555) ไปๆมาๆชอบว่ะเท๊ออออ คืองี้นะ เนื้อมันไม่ได้เป็นสีขาวจั๊ วะ แต่ก็ไม่ได้เป็นสีครีม คือมันออกขาวครีมที่มีชิมเม อร์ละเอียดๆอยู่ พอทาออกมาแล้วเนี่ย มันไม่วาวจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้แมทซะทีเดียว คือเงาขึ้นนิดเดียว แบบนิดเดียวจริงๆ เพราะเนื้อมันค่อนข้างบางเบ าอ่ะ เลยไม่ค่อยเห็นสี แต่ชอบ
ถามว่าทำไมถึงชอบ คือมันเอามาไล้ใต้หางคิ้วเพ ื่อขับให้คิ้วดูเด่นขึ้นได้ ธรรมชาติมากๆ คือถ้าจะใช้อายแชว์โดว์ตัวอ ื่นมาทำแบบนี้ บางทีมันวาวเกินไป วาวจนแบบคิ้วดูยกมาก เด่นเกิน และเด่นเกินขนาดนั้น ในชีวิตประจำวันก็ใช่ว่าจะด ูสวย จริงมั้ยล่ะ อันนี้มันธรรมชาติจริง สวยจริง นี่บอกเลยว่าอันนี้คือตัวจร ิง ใช้ทุกวันยังหาตัวตายตัวแทน มาไม่ได้ ยังคิดอยู่ว่าเออมันไม่ค่อย ฮิต เข้าใจแหล่ะว่าถ้าเอามาทาตา สีเดี่ยวๆอาจจะดูไม่ปังมากเ ท่าไหร่ เพราะวิ้งน้อยไปนิด แต่ขอบอกเคล็ดลับอีกอย่างนึ ง เวลาวันไหนอยากทาปากแดงเด่น ๆแล้วอยากแต่งตาให้น้อยที่ส ุด สีนี้คือสีที่เราหยิบมาทาทั้งเปลือกตาบ่อยที่สุด แล้วก็เอาสีน้ำตาลเนื้อแมทอ ะไรก็ได้มาคัดเบ้าเบาๆแค่นี้เอง เป็นการแต่งตาที่ง่ายมากๆ เขียนอายไลเนอร์ ติดขนตา จบเลย ตาจะดูไม่เยอะเกินไป แล้วไปทาปากแดงให้เนี้ยบๆ อื้อหือ..จะบอกว่าปังมาก เป็นลุคปากแดงกันตายอีกลุคน ึงเลยนะ อ่ะเล่าต่อๆ ตอนนั้นที่ไปซื้อที่ central world เค้ายังบอกของไม่มีในสต๊อคด ้วยซ้ำเพราะมันไม่ฮิต แต่นี่ไม่ละความพยายามจ้ะ ไปที่พารากอนต่อ เค้าบอกว่ามีจ้า นาทีนั้นนี่ดีใจมากไม่ได้เว่อร์ พี่นี่รีบซื้ออีกสองเลยครับ ! เราไม่ค่อยซื้ออายแชว์โดว์ส ีเดี่ยวๆนะ ถึงจะเป็นคนชอบแต่งตาก็จริง แต่นานๆทีมากๆที่จะซื้อสีเด ี่ยวๆ ถ้าจะซื้อแปลว่าสีนั้นต้องม ีลักษณะอะไรพิเศษจริงๆ สวย ไม่ซ้ำอะไรแบนี้ เช่น eye to kill ของ armani ซึ่งหาซื้อยากอีกละ อันนั้นชอบมาก คราวนี้ lunasol ทำสีนี้ออกมาได้ดีมากๆ ลงตัวทุกอย่าง ปลื้มที่สุดในโลก
credit : ต้องขอขอบคุณพี่พลอย onewayticket ตอนนั้นบังเอิญได้ดูคลิป favorite ของพี่ แล้วพี่บอกเฮ้ยตัวนี้ดีว่ะ เป็นมากกว่าอายแชว์โดว์ เอามาไล้สันจมูกก็สวยไม่เว่ อร์ เอาไปปัดใต้ตาเพื่อความไบรท ์แบบธรรมชาติอีกก็ยังได้ คือจะบอกว่ามันเป็นตามนั้นท ุกอย่าง มันดีมาก อันนี้ซื้อตามพี่พลอยเลย ใช้ไล้ใต้ท้องคิ้วมาตลอดและ ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ สิบเต็ม และขอร้องว่าอย่าเลิกผลิต เลิกผลิตจะไปประท้วงงงงงง!! !!
Shu uemura performance glow
เบสลุงชู ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นบำรุงในตัวด้วย ส่วนตัวไม่ได้มายด์ว่าจะบำรุงหรือไม่บำรุงอยู่แล้ว เพราะเราก็มีสกินแคร์ที่ใช้อยู่แล้วอ่ะเนอะ ตัวนี้มาเหนือความคาดหมายอีกแล้วอ่ะ ไม่คิดว่ามันจะดี แต่มันดี! เนื้อมันจะเป็นเนื้อครีมๆสีขาวแต่ไม่ขาวจั๊วะ ถ้าสังเกตดีๆมันจะมีเหมือนเม็ดสีเล็กๆอยู่ พอเกลี่ยลงบนผิวแล้วเม็ดสีนี้แหล่ะจะแตกตัวออกมาเป็นสีเนื้อๆ ทาลงบนผิวแล้วผิวจะดูโกลว์ๆทันที คือคำว่า luminious คงเป็นคำนิยามที่ดีที่สุดในการอธิบายลุคที่ได้จากการทาตัวนี้ มันทำให้หน้าดูฉ่ำขึ้นโดยที่ไม่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ใดๆเลย คือผิวจะดูอิ่มน้ำสุขภาพดีมากๆ เบสที่มีเนื้อลักษณะนี้ ตอนแรกคิดไว้เลยนะ ว่ามันต้องทำให้หน้าฉันมันย่องเอาไปทอดไข่ดาวได้แน่ๆ แต่ผิด ผิดความคาดหมายทุกอย่าง มันไม่มีคุณสมบัติคุมมันนะ แต่เวลาทารองพื้นทับลงไปแล้ว เคยสังเกตดูระหว่างวันหน้าจะมันน้อยลงมาก ลองซับๆหน้าดูก็ตกใจ เฮ้ยทำไมหน้าไม่ค่อยมันเลย เดาว่าอาจเป็นคุณสมบัติที่เป็นสกินแคร์ของตัวนี้ด้วยที่ทำให้หน้าเราไม่ dehydrated ผิวเราเลยไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มออกมามากเกินไป ฉะนั้นที่ทางแบรนด์เคลมว่าทำให้ผิวชุ่มชื้นไปอีก xx ชั่วโมง(จำไม่ได้ว่า 12 หรืออะไรนี่แหล่ะ)ซึ่งจากการใช้ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปตามคำเคลมนะ และนอกจากนั้นมันทำให้ผิวดูสวยด้วย ไม่คอนเฟิร์มว่าใช้เดี่ยวๆแล้วลงแป้งฝุ่นจะเป็นยังไง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ลงรองพื้นอยู่แล้ว และอยากได้เอฟเฟคทั้งหมดที่เราพูดมา ลองเลย ไม่ผิดหวัง ยิ่งคนหน้าแห้งนี่น่าจะยิ่งชอบเลยล่ะ ขนาดเราหน้ามันเรายังชอบเลย
Missha BB Boomer
มาทางฝั่งเกาหลี จริงๆไม่ค่อยถูกกับเมคอัพเกาหลีเท่าไหร่นะ มันไม่ใช่แนวเราอ่ะ มันใสและแบ๊วมากเกินไป 55555 วันนึงมีโอกาสได้ลองใช้เบสตัวนี้ เอฟเฟคที่ได้ค่อนข้างคล้ายกับ shu แต่มาด้วยราคาถูกกว่าไม่รู้กี่เท่า อันนี้หาซื้อในเมืองไทยก็ยังมี น่าจะอยู่ที่สามร้อยกว่าบาท ในขณะที่เบสลุงชูเกือบสองพัน (แต่ 50ml เลยนะ เบสทั่วๆไปแค่ 30ml เอง) สิ่งที่มิชช่าแตกต่างจากลุงชูคือเนื้อมันสีขาวอมชมพูอ่อนๆ และตัวนี้ไม่มีเม็ดบีดส์ที่เวลาเกลี่ยแล้วแตกตัวเป็นสีๆเหมือนลุงชู ทาไปบนหน้าก็ไม่ได้ลอยอะไรนะ ไม่ได้ทำให้หน้าชมพูอะไรขนาดนั้น แต่เอฟเฟคเรื่องผิววาวๆ ผิวสวยฉ่ำดิ้วอี้เกาหลีสไตล์ตัวนี้ทำได ไม่ทำให้หน้ามันขึ้น แต่ก็ไม่ได้ควบคุมความมันอะไร ระหว่างวันหน้าก็ยังผลิตน้ำมันปกติ ต้องลองไปตัดสินใจเอาเองว่าจะเอาตัวไหน ถ้าเลือกตัวนี้ก็ขยันซับหน้าหน่อยแค่นั้นเอง เพราะราคาถูกกว่าเยอะมากกกก
Hourglass mineral veil primer
ตัวนี้นี่ยอมรับว่าอิทธิพลมาจากโมเมพาเพลินจ้า ปกติเราไม่ได้ซื้อของตามโมเมนะ เพราะเราเป็นคนที่ซื้อพวกเมคอัพเยอะอยู่แล้ว ชอบลองเองเจ็บเอง แต่ตัวนี้ไม่รู้อะไรมาดึงดูด สั่งพรีออเดอร์ทันทีที่ดูคลิปโมเมจบ 555555555 และมันดีจริงๆค่ะคุณ ใครที่ชอบผิวฉ่ำวาวดูสุขภาพดีแบบเอฟเฟคที่ได้ในเบสสองตัวบนคงต้องข้ามตัวนี้ไปเลย HG เป็นเนื้อสีขาวเหลวๆที่มีซิลิโคนค่อนข้างมาก และแน่นอนมันต้องทำให้หน้าเรียบเนียน คือเอฟเฟคที่ได้จะเป็นผิวที่เรียบๆเนียนๆ สไตล์ไพรเมอร์ฝรั่ง ไม่มีความวาว ฉ่ำน้ำ สุขภาพดีใดๆ ไม่ใช่ฟีลเบสเกาหลี ถ้าลงรองพื้นต่อ ระหว่างวันจะพบว่าผิวคุณจะไม่ได้ดูเกาหลีสุขภาพดีอย่างสองตัวบน แต่ผิวจะดูแมท ดูสะอาด เรียบ เนียน ที่สำคัญมันคุมมันได้ดีมากที่สุดในบรรดา primer คุมมันหลายๆตัวที่ได้ลองมา
และต้องขอโทษทุกคนด้วย ตัวนี้ sephora ไทยยังไม่เอาเข้ามานะ pre-order เอาจ้า
ตัวตายตัวแทนที่แนะนำคือ mac prep+prime นะ อาจจะคุมมันดีไม่เท่า และแอบมีชิมเมอร์ละเอียดๆ ที่ทาแล้วดูไม่ออกหรอกว่ามีชิมเมอร์(ซึ่งนั่นเราถือว่าคือข้อดี) เรื่องทำให้เครื่องสำอางติดทนขอคอนเฟิร์มว่าไม่แพ้กัน แต่เรื่องคุมมันแมคยังห่างอยู่
ตัวแรกปีนี้ที่ยกให้เป็นไอเท็มถ
Illamasqua eye brow cake #peek :
ที่เขียนคิ้วเนื้อเค้ก อย่าเพิ่งงงว่าเนื้อเค้กคือ
Maybelline brow mascara สี dark brow :
มาสคาร่าปัดคิ้ว ย้อมคิ้วให้เป็นสีเดียวกับค
Eye liner |
ปีที่ผ่านมาสำหรับเรา แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทำเค
Shu uemura pencil eyeliner :
ตัดสินใจยากมาก ลังเลอยู่นานว่าจะให้อายไลน
ปล. สำหรับเราไม่แพนด้า ไม่เยิ้มนะ แต่ก็ยังไม่เคยแอดเวนเจอร์ถ
สรุป : มองหาสีที่หลากหลายมากๆและเ
Eyelash Adhesive |
ชอบกาวลักษณะหัวจิ้มจุ่มแบบ
มีอีกตัวที่อยากแนะนำสำหรับ
Single eye shadow |
เหมือนมันจะไม่มีใครพูดถึงเ
ถามว่าทำไมถึงชอบ คือมันเอามาไล้ใต้หางคิ้วเพ
credit : ต้องขอขอบคุณพี่พลอย onewayticket ตอนนั้นบังเอิญได้ดูคลิป favorite ของพี่ แล้วพี่บอกเฮ้ยตัวนี้ดีว่ะ เป็นมากกว่าอายแชว์โดว์ เอามาไล้สันจมูกก็สวยไม่เว่
Primer & Base |
เบสลุงชู ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นบำรุงในตัวด้วย ส่วนตัวไม่ได้มายด์ว่าจะบำรุงหรือไม่บำรุงอยู่แล้ว เพราะเราก็มีสกินแคร์ที่ใช้อยู่แล้วอ่ะเนอะ ตัวนี้มาเหนือความคาดหมายอีกแล้วอ่ะ ไม่คิดว่ามันจะดี แต่มันดี! เนื้อมันจะเป็นเนื้อครีมๆสีขาวแต่ไม่ขาวจั๊วะ ถ้าสังเกตดีๆมันจะมีเหมือนเม็ดสีเล็กๆอยู่ พอเกลี่ยลงบนผิวแล้วเม็ดสีนี้แหล่ะจะแตกตัวออกมาเป็นสีเนื้อๆ ทาลงบนผิวแล้วผิวจะดูโกลว์ๆทันที คือคำว่า luminious คงเป็นคำนิยามที่ดีที่สุดในการอธิบายลุคที่ได้จากการทาตัวนี้ มันทำให้หน้าดูฉ่ำขึ้นโดยที่ไม่มีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ใดๆเลย คือผิวจะดูอิ่มน้ำสุขภาพดีมากๆ เบสที่มีเนื้อลักษณะนี้ ตอนแรกคิดไว้เลยนะ ว่ามันต้องทำให้หน้าฉันมันย่องเอาไปทอดไข่ดาวได้แน่ๆ แต่ผิด ผิดความคาดหมายทุกอย่าง มันไม่มีคุณสมบัติคุมมันนะ แต่เวลาทารองพื้นทับลงไปแล้ว เคยสังเกตดูระหว่างวันหน้าจะมันน้อยลงมาก ลองซับๆหน้าดูก็ตกใจ เฮ้ยทำไมหน้าไม่ค่อยมันเลย เดาว่าอาจเป็นคุณสมบัติที่เป็นสกินแคร์ของตัวนี้ด้วยที่ทำให้หน้าเราไม่ dehydrated ผิวเราเลยไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มออกมามากเกินไป ฉะนั้นที่ทางแบรนด์เคลมว่าทำให้ผิวชุ่มชื้นไปอีก xx ชั่วโมง(จำไม่ได้ว่า 12 หรืออะไรนี่แหล่ะ)ซึ่งจากการใช้ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปตามคำเคลมนะ และนอกจากนั้นมันทำให้ผิวดูสวยด้วย ไม่คอนเฟิร์มว่าใช้เดี่ยวๆแล้วลงแป้งฝุ่นจะเป็นยังไง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ลงรองพื้นอยู่แล้ว และอยากได้เอฟเฟคทั้งหมดที่เราพูดมา ลองเลย ไม่ผิดหวัง ยิ่งคนหน้าแห้งนี่น่าจะยิ่งชอบเลยล่ะ ขนาดเราหน้ามันเรายังชอบเลย
Missha BB Boomer
มาทางฝั่งเกาหลี จริงๆไม่ค่อยถูกกับเมคอัพเกาหลีเท่าไหร่นะ มันไม่ใช่แนวเราอ่ะ มันใสและแบ๊วมากเกินไป 55555 วันนึงมีโอกาสได้ลองใช้เบสตัวนี้ เอฟเฟคที่ได้ค่อนข้างคล้ายกับ shu แต่มาด้วยราคาถูกกว่าไม่รู้กี่เท่า อันนี้หาซื้อในเมืองไทยก็ยังมี น่าจะอยู่ที่สามร้อยกว่าบาท ในขณะที่เบสลุงชูเกือบสองพัน (แต่ 50ml เลยนะ เบสทั่วๆไปแค่ 30ml เอง) สิ่งที่มิชช่าแตกต่างจากลุงชูคือเนื้อมันสีขาวอมชมพูอ่อนๆ และตัวนี้ไม่มีเม็ดบีดส์ที่เวลาเกลี่ยแล้วแตกตัวเป็นสีๆเหมือนลุงชู ทาไปบนหน้าก็ไม่ได้ลอยอะไรนะ ไม่ได้ทำให้หน้าชมพูอะไรขนาดนั้น แต่เอฟเฟคเรื่องผิววาวๆ ผิวสวยฉ่ำดิ้วอี้เกาหลีสไตล์ตัวนี้ทำได ไม่ทำให้หน้ามันขึ้น แต่ก็ไม่ได้ควบคุมความมันอะไร ระหว่างวันหน้าก็ยังผลิตน้ำมันปกติ ต้องลองไปตัดสินใจเอาเองว่าจะเอาตัวไหน ถ้าเลือกตัวนี้ก็ขยันซับหน้าหน่อยแค่นั้นเอง เพราะราคาถูกกว่าเยอะมากกกก
Hourglass mineral veil primer
ตัวนี้นี่ยอมรับว่าอิทธิพลมาจากโมเมพาเพลินจ้า ปกติเราไม่ได้ซื้อของตามโมเมนะ เพราะเราเป็นคนที่ซื้อพวกเมคอัพเยอะอยู่แล้ว ชอบลองเองเจ็บเอง แต่ตัวนี้ไม่รู้อะไรมาดึงดูด สั่งพรีออเดอร์ทันทีที่ดูคลิปโมเมจบ 555555555 และมันดีจริงๆค่ะคุณ ใครที่ชอบผิวฉ่ำวาวดูสุขภาพดีแบบเอฟเฟคที่ได้ในเบสสองตัวบนคงต้องข้ามตัวนี้ไปเลย HG เป็นเนื้อสีขาวเหลวๆที่มีซิลิโคนค่อนข้างมาก และแน่นอนมันต้องทำให้หน้าเรียบเนียน คือเอฟเฟคที่ได้จะเป็นผิวที่เรียบๆเนียนๆ สไตล์ไพรเมอร์ฝรั่ง ไม่มีความวาว ฉ่ำน้ำ สุขภาพดีใดๆ ไม่ใช่ฟีลเบสเกาหลี ถ้าลงรองพื้นต่อ ระหว่างวันจะพบว่าผิวคุณจะไม่ได้ดูเกาหลีสุขภาพดีอย่างสองตัวบน แต่ผิวจะดูแมท ดูสะอาด เรียบ เนียน ที่สำคัญมันคุมมันได้ดีมากที่สุดในบรรดา primer คุมมันหลายๆตัวที่ได้ลองมา
และต้องขอโทษทุกคนด้วย ตัวนี้ sephora ไทยยังไม่เอาเข้ามานะ pre-order เอาจ้า
ตัวตายตัวแทนที่แนะนำคือ mac prep+prime นะ อาจจะคุมมันดีไม่เท่า และแอบมีชิมเมอร์ละเอียดๆ ที่ทาแล้วดูไม่ออกหรอกว่ามีชิมเมอร์(ซึ่งนั่นเราถือว่าคือข้อดี) เรื่องทำให้เครื่องสำอางติดทนขอคอนเฟิร์มว่าไม่แพ้กัน แต่เรื่องคุมมันแมคยังห่างอยู่
Foundation |
หมวดนี้เป็นอะไรที่ยากมากๆ เนื่องจากเป็นคนซีเรียสกับเ รื่องเบสเมคอัพพอสมควร เพราะผิวดีทำให้เรามีชัยไปก ว่าครึ่ง เอาจริงๆถ้าลงเบสเมคอัพดีๆ ทุกอย่างก็ดูเพอร์เฟคต์เลยน ะ ดังนั้นจะมีรองพื้น 10 ขวด++ (เอาจริงๆ 20น่าจะถึง ไม่กล้านับ กลัวเป็นลม 55555) อยู่ที่บ้าน
ถามว่าทำไมต้องมีเยอะขนาดนี ้ เพราะว่าเอฟเฟคของแต่ละตัวม ันต่างกัน คุณสมบัติและระดับความปกปิด ก็ต่างกัน แต่ละช่วงผิวเราเปลี่ยนสภาพ ไปเรื่อยๆ บางช่วงหน้าเยินนอนน้อย บางช่วงแพ้มาสิวบุก เราจะเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะกั บสภาพผิวช่วงนั้นๆ
เทรนด์ปีที่ผ่านมาเน้นให้เผ ยผิวซะส่วนใหญ่ ดังนั้นตัวที่ตัดสินใจให้เข ้ารอบเลยมาจากค่าย Lancome นั่นเอง
ถามว่าทำไมต้องมีเยอะขนาดนี
เทรนด์ปีที่ผ่านมาเน้นให้เผ
Lancome teint miracle / Lancome maqui miracle
ในรูปมีไม่ครบนะ มันหมดแล้วยังไม่ได้ไปซื้อ เหลือแค่นี้อ่ะ 555555
จะบอกว่ารักพี่เสียดายน้องก
เอาเป็นว่าให้ความปกปิดระดั
รองพื้นตัวเดียวกันแต่มีวิธ
ส่วนเรื่องสี เฉดสีที่ไทยนำเข้าน้อยมีไปห
(คือน่าจะเป็นเบอร์เข้มสุดเ
ส่วนตัวได้ซื้อรุ่นใหม่ที่อ
เอาเป็นว่าสี O-04 ที่เราควรจะใช้ได้มันกลับใช
พูดถึงคุณสมบัติตัว teint ที่เราชอบต่ออีกนิด สำหรับคนที่ชอบงานผิวสวย งานผิวผ่อง ผิวดูมีออร่า ผิวสุขภาพดี ตัวนี้คือคำตอบเลยนะ แต่ถ้าชอบความแมท คุมมัน ขอให้ข้ามไปเลย เพราะไม่คุมมันเลย แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มข
ซื้อต่อมั้ย : ซื้อค่ะ แต่เข้าไปดูในเว็บมันออกใหม
จริงๆตัวที่อยากลองมีอีกตัว
Loose Powder |
ขอแยกออกเป็นสองตัว คือ matte กับ shimmer
Nars - translucent crystal
หลายๆคนต้องคิดในใจว่าถ้าผิ วมัน ต้องชอบแป้งฝุ่น LM สุดฮิตแน่ๆ และแน่นอนเราก็ชอบ เพราะว่ามันคุมมันได้ดี เนื้อค่อนข้างละเอียด ที่สำคัญมันทำให้ผิวดูแมท ซึ่งเป็นลุคที่เราชอบด้วย แต่ด้วยเอฟเฟคที่ได้นั่น มันแมทจนดูด้านเกินไป (แต่บางวันก็อยากได้ลุคแมทๆ ด้านๆแบบนี้นะ) ดังนั้นตัวที่มาวินในปีนี้ค งต้องยกให้ nars เค้าล่ะ เป็นแป้งที่ไม่อยู่ในกระแสอีก แล้ว แต่มันดี๊ดีอ่ะ ให้ลุคแมทเหมือนกัน แต่เป็น soft-matte อ่ะ คือไม่แมทจนเกินไปนั่นเอง มันแอบมีชิมเมอร์ละเอียดๆอย ู่เพียงเล็กน้อย แทบมองไม่เห็นซึ่งทำให้เอฟเ ฟคที่ออกมาไม่ดูด้านจนเกินไ ป ผิวจะดูสว่างขึ้นแบบธรรมชาต ิเรื่องคุมมันอาจจะสู้ LM ไม่ได้ แต่ก็คุมได้ดีประมาณนึง เนื้อแป้งละเอียด ดูด้วยสายตาเป็นสีขาวเลย แต่จริงๆมันเป็น translucent ดังนั้นไม่ต้องห่วง ใช้ได้ทุกสีผิว มีเป็นแบบอัดแข็งด้วย แต่เราชอบแบบฝุ่นมากกว่า แต่ถ้าเดินทางบ่อยๆ แบบอัดแข็งก็เป็นทางเลือกที ่ดีเลยทีเดียว
Lamer - translucent
อันนี้ซื้อมานานมากแล้ว ไม่รู้เปลี่ยนแพคเกจไปหรือย ัง ถ้าเปลี่ยนจะดีใจมาก เพราะของเก่าเป็นกระปุกแก้ว โคตรจะหนักเลยค่ะ T_T แต่ด้วยคุณสมบัติของมัน นี่ยอมใจให้เลย ไม่ได้คุมมันนะ แต่เป็นแป้งที่โคตรจะละเอีย ด แอบอุทานในใจเบาๆไม่รู้ทางโ รงงานใช้อะไรโม่แป้ง ทำไมละเอียดได้ขนาดนี้ 55555 ตัวนี้เป็นแป้งวิ้งนะ shimmer กระจาย แต่เป็น shimmer ผู้ดีนะ shimmer ละเอียดสวยมากๆ ไม่ลิเกแน่นอน สัมผัสที่ได้จากแป้งตัวนี้ค ือ ใช้แปรงปัดลงไปปุ๊ป เฮ้ยมัน melt ไปกับผิวเลยอ่ะ คือผิวจะดูโกล์วแบบผู้ดีเว่ อร์มากกกกก นี่รัก วันไหนที่อยากมีงานผิวโกล์ว ต้องตัวนี้เลย รักมากแม้ราคาจะไม่ชวนให้รัก ฮืออออ
Nars - translucent crystal
หลายๆคนต้องคิดในใจว่าถ้าผิ
Lamer - translucent
อันนี้ซื้อมานานมากแล้ว ไม่รู้เปลี่ยนแพคเกจไปหรือย
Shading |
Tom ford shade & illuminate สี intensity one
ในไทยมีสีเดียว ตัวนี้เพิ่งซื้อได้ไม่นานเล ยจำราคาได้ ค่าตัวแพ๊งแพง 2600THB ไม่รู้จะแพงไปไหน หน้ามืดซื้อมาได้ยังไง แต่พอได้ลองแล้วรู้สึกชอบมา กกกก เป็นเฉดดิ้งกับไฮไลท์แบบครี มนะ ตัวไฮไลท์ยังไม่ได้ทดลองอะไ รมาก เพราะชอบใช้แบบฝุ่นมากกว่า แต่ตัวเฉดดิ้งนี่สิ ให้เต็มค่ะ ลองมาหลายตัวรู้สึกชอบตัวนี ้ที่สุด เพราะมัน pigmented มาก ที่จริงมีสองเฉดแต่ในไทยนำเข้ามาแค่เฉดเดียว
ส่วนตัวคิดว่าสีเฉดดิ้งค่อน ข้างเข้มนะ แต่ก็เกลี่ยง่าย คนที่ขาวๆก็ใช้แต่น้อยละกัน ค่อยๆเกลี่ย สิ่งที่ชอบนะความรู้สึกส่วน ตัวล้วนๆคือหนึ่งแพคเกจมันเ ริ่ดมาก หรูหรา มีระดับสมราคา มีซองกำมะหยี่ให้ด้วย สองทาก่อนลงแป้งฝุ่น(หลังลง รองพื้น)ก็ได้ จะทาหลังลงแป้งฝุ่นก็ไม่เป็ นคราบ
จบ ไม่อยากอธิบายอะไรมาก เอาเป็นว่าชอบด้วยอินเนอร์ส ่วนตัวล้วนๆ ตัวที่ถูกกว่านี้ก็มี ถ้าไม่บ้าซื้อแบบเรา ไปหาตัวที่ถูกกว่านี้ก็จะดี นะ
(ตอนแรกจะให้ชาแนลกระปุกด้า นขวา แต่เปลี่ยนใจ เพราะทอมฟอร์ดชนะในหลายๆด้า น เช่นหนึ่งคือเรื่องกลิ่น ของชาแนลมันมีกลิ่นหอมๆกลิ่ นเฉพาะของเค้าอ่ะ คือไม่ชอบเท่าไหร่ แต่อันนี้ไม่มี สองคือเรื่องสี ตัวนี้เข้มกว่า แตะขึ้นมาแล้วเกลี่ยกับผิวไ ปเลย ไม่ต้องบิวท์สีมาก ส่วนชาแนลสีอ่อนกว่าต้องบิว ท์สีหน่อย สามคือแพคเกจ ทอมฟอร์ดเป็นตลับแบน มีกระจกพกง่าย ขนาดเล็กกว่า แต่ชาแนลมาเป็นกระปุกใหญ่เล ย ไม่มีกระจกด้วย พกยากไปนิด เอาเป็นว่าชอบค่ายไหนไปเลย ดีทั้งคู่ แต่ถ้าถามเราตอนนี้ชอบทอมฟอ ร์ดมากกว่า)
เอาจริงๆตัวนี้ไม่จำเป็นสำห รับทุกคน ถ้าคุณไม่ใช่คนแต่งหน้าเยอะ แต่งหน้าแน่น ต้องเฉดดิ้งให้หน้ามีกรอบชั ดเจน ไม่ต้องใช้หรอก ตัวเราเองเรายังไม่ได้ใช้ทุ กวันเลย
แต่ถ้าวันไหนอยากเป๊ะมาก เฉดดิ้งนี่เป็นสิ่งแรกที่นึ กถึงในบรรดาทุกตัวเวลาจะหยิ บมาใช้ สิ่งที่สามารถใช้แทนกันได้ค ือรองพื้น/ แป้งต่างๆที่มีสีเข้มกว่าหน้ า แค่นั้นก็โอเคละ
ที่เห็นในตลับดูยุบไปไม่เยอ ะเพราะว่าก่อนหน้านี้ใช้แต่ แบบฝุ่น พอมาใช้แบบครีมแล้วรู่สึกชอ บแบบครีมมากกว่า เพราะมันคุมทิศทางของสีได้ง ่าย แล้วแต่ถนัดด้วยแหล่ะ ถ้ารีบๆปัดๆ ใช้แบบฝุ่นก็ได้ the balm สี bahama mama เป็นทางเลือกของแบบฝุ่นที่ด ี ไม่ติดส้มเลย เวิร์ค!
ในไทยมีสีเดียว ตัวนี้เพิ่งซื้อได้ไม่นานเล
ส่วนตัวคิดว่าสีเฉดดิ้งค่อน
จบ ไม่อยากอธิบายอะไรมาก เอาเป็นว่าชอบด้วยอินเนอร์ส
(ตอนแรกจะให้ชาแนลกระปุกด้า
เอาจริงๆตัวนี้ไม่จำเป็นสำห
แต่ถ้าวันไหนอยากเป๊ะมาก เฉดดิ้งนี่เป็นสิ่งแรกที่นึ
ที่เห็นในตลับดูยุบไปไม่เยอ
Hi-light |
นี่ก็ใช้ได้นานลื๊มมมมม ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมด แต่มันวาวสวยมาก ชิมเมอร์เยอะสุดๆ แต่ก็เป็นชิมเมอร์ที่ละเอีย
ไม่คิดว่ามันจะฮิตเพราะใช้ต
Signature Lipsticks! |
Lip Liner : Burberry #05 Brick red
ขอพูดถึงลิปไลเนอร์ก่อน อันนี้เป็นอันที่ปลื้มมาก เนื้อดีมากๆ มีหลายคนอยากให้แนะนำลิปแดง
คือขอแนะนำเป็นตัวนี้แทน เพราะว่าเวลาทาลิปสีเข้มๆอย
brick red มันเป็นสีแดงที่ไม่ใช่แดงสว
Stila #Beso
ตัวนี้เป็นลิปสติคเนื้อลิคข
applicator ก็ทำมาได้ดี มือนิ่งๆสามารถเอามาทาปากโด
Illamasqua #Scandal
พูดถึงลิปแบบแมท จะข้ามแบรนด์นี้ไปไม่ได้ โดยปกติแล้วความแมทมักจะมาพ
เพราะมันแทบจะไม่แห้งและตกร
สีที่จะเป็นคราบได้ง่ายที่ค
และสีสุดท้ายที่จะพูดถึงของ
วิธีทาลิปให้ให้สวยที่สุด โดยเฉพาะลิปแมทๆแบบนี้ คือใช้สปาตูล่าปาดเนื้อลิปออกมาเล็กน้อย และใช้พู่กันขยี้ให้แตกก่อนทา เนื้อมันจะเหลวลงนิดนึง ทีนี้ทาง่ายเลย รับรองว่าสวยแน่นอน ดีกว่าทาจากแท่งมาก ลองใช้วิธีนี้กันดู เอาไปประยุกต์ใช้กับลิปแมทแบรนด์อื่นๆก็ได้
อาจจะสงสัยว่าทำไมไม่พูดถึง
ส่วนที่แนะนำสีแดง ทั้งๆที่ไม่มีใครทาทุกวัน (แต่ดิฉันทาจนเป็น signature ไปแล้วค่ะ เกือบทุกวัน ฮ่าๆ) แต่มันเป็นสีที่แต่งตาน้อยๆ
สีแดงมีแดงหลายเฉด ซึ่งแต่ละเฉดก็ให้อารมณ์และ
แนะนำให้มีสีแดงติดไว้คนละแ
ส่วนตัวเฉพาะลิปสติคสีแดงเน
ปล. จบแล้ว ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตามรี
มีอะไรสงสัยอยากถาม ถามมาเลยน้า ถ้าตอบได้จะรีบตอบเลย
ขอบคุณที่ติดตามกันอีกครั้ง
CONVERSATION